ปลายฝนต้นหนาวแบบนี้ การออกเดินทางไปเที่ยวชมทัศนียภาพตามป่าเขา เช่น ไปเที่ยว 'ภูกระดึง' ที่เพิ่งจะเปิดป่าต้อนรับขาเที่ยวไปหมาดๆ (อ่านเพิ่ม:'ภูกระดึง' 1 ต.ค. เที่ยวเปิดป่า) ฤดูนี้เหมาะที่สุด ถือเป็นช่วงไฮไลต์ยอดนิยมของนักท่องเที่ยวช่วงเดียวของปี ที่จะได้ชมทะเลหมอกสวยที่สุดแบบที่ฤดูอื่นหาไม่ได้
แต่จะไปชมทะเลหมอกทั้งที ก็ต้องมีการเตรียมตัวกันหน่อย ใครเป็นมือใหม่หัดเที่ยว อาจจะไปแล้วไม่เห็น หรือไปแล้วเก็บภาพสวยๆ ไม่ทันนี่เสียดายแย่ วันนี้ ไทยรัฐออนไลน์ มีคู่มือแนะนำการไปเที่ยวล่าทะเลหมอกมาฝากกัน
ต้องทำยังไงบ้าง ตามมาดูกันเลย
1. ตื่นแต่เช้ามืด
การเตรียมตัวเพื่อไปล่าทะเลหมอก หรือพูดในภาษาธรรมดาๆ ว่าไปชมและถ่ายภาพทะเลหมอกนั้น เป็นที่รู้กันดีในหมู่นักเดินทางว่า ต้องไปรอน้องหมอกกันแต่เช้ามืด ตื่นประมาณตี 4 หรือเช้ากว่านั้น ต้องเผื่อเวลาเดินทาง เพื่อที่จะได้ไปถึงจุดชมทะเลหมอกก่อนพระอาทิตย์ขึ้น
ชมทะเลหมอก สวย ฟูฟุ้ง
2. เตรียมเสื้อให้พร้อม
ถ้าเป็นช่วงปลายฝนต้นหนาว ก็ควรเตรียมเสื้อกันลม และเสื้อกันฝนไปด้วย เผื่อว่าช่วงเช้ามืดมีฝนปรอยลงมา จะได้ไม่เป็นอุปสรรคในการเดินทาง ยังไงก็อย่าให้ตัวเปียก ต้องดูแลสุขภาพไว้ก่อน
ส่วนถ้าใครไปเที่ยวหน้าหนาวที่ฝนทิ้งช่วงไปแล้ว อันนี้แนะนำให้เตรียมเสื้อกันลมด่วนๆ เพราะหน้าหนาวลมแรงมาก ส่วนด้านใน นอกจากเสื้อผ้าปกติแล้ว ควรสวมลองจอนหรือฮีทเทคไว้อีกชั้นหนึ่ง เพื่อเพิ่มความอบอุ่น รวมถึงถุงเท้าหนาๆ และถุงมือด้วย ก็บนยอดเขามันหนาวมากจริงๆ นะเธอ
3. อย่าลืมกล้องล่ะ
ไม่ใช่ไปชมด้วยตาอย่างเดียว แต่หลายคนก็อยากเก็บภาพความสวยงามของทะเลหมอกไว้เป็นที่ระลึก ดังนั้นอย่าลืมกล้องถ่ายรูปเด็ดขาด และต้องเตรียมชาร์จแบตฯ ให้พร้อม เตรียมเลนส์ขนาดต่างๆ (สำหรับคนเล่นกล้องที่อยากได้ภาพหลากหลาย) เตรียมขาตั้งกล้อง แล้วก็ไฟฉายคนละ 1 กระบอก แค่นี้ก็พร้อมลุย!
แสงแดดยามรุ่งอรุณมาพร้อมทะเลหมอก สวยแจ่มว้าว!
4. ไปกันเป็นกลุ่ม
ปกติก่อนจะไปชมพระอาทิตย์ขึ้นและทะเลหมอก จะมีเจ้าหน้าที่คอยบอกนัดเวลาไว้ตั้งแต่ช่วงเย็นก่อนวันรุ่งขึ้น เป็นต้นว่า นัดตี 4 ครึ่ง ให้มารวมกลุ่มกันที่จุดนี้ๆๆ ก็ว่ากันไป เพื่อที่รุ่งเช้า จะได้เดินไปพร้อมกันเป็นกลุ่ม อย่าแยกเดินเดี่ยวเด็ดขาด เพราะตอนเช้ามืด มันมืดจริงๆ ถึงจะมีไฟฉาย แต่ก็อาจจะหลงทางได้ ยิ่งหลงทางในป่าไม่ใช่เรื่องดีแน่ เพราะฉะนั้นรอไปพร้อมเจ้าหน้าที่ หรือรอไปกันเป็นกลุ่มใหญ่ๆ ดีกว่า
5. หาตำแหน่งแจ่มสุดๆ
พอเดินทางไปถึงจุดชมวิว (ควรมาถึงไม่เกินตี 5 ครึ่ง) ตอนนี้นักท่องเที่ยวก็จะทยอยมา ใครถึงก่อนก็มีสิทธิ์ได้จับจองมุมดีๆ ก่อน นี่แหละ...แย่งกันให้วุ่นวายเลยเชียว ถ้าเราไปถึงเร็วสิ่งแรกที่ควรทำเลย ก็คือ รีบมองหามุมดีๆ ในการชมวิว แล้วไปจับจองซะก่อนที่จะมีคนมาเยอะกว่านี้ แล้วจากนั้นก็รอ พร้อมกับเริ่มตั้งกล้องได้เลย
ช่างภาพส่วนใหญ่จะแนะนำให้เอาขาตั้งกล้องมาด้วย เพราะเวลาถ่ายภาพทะเลหมอก เนื่องจากช่วงเช้าตรู่แบบนี้แสงจะน้อย ถ้าไม่มีขาตั้งกล้อง การสั่นไหวเพียงเล็กน้อยภาพที่ได้ก็จะไม่คมชัด บางคนก็ใช้สายลั่นชัตเตอร์ช่วย และยังมีเทคนิคเล็กๆ น้อยๆ อีก เช่น ตั้งค่าสปีดชัตเตอร์ให้ต่ำๆ เข้าไว้ หรือตั้งค่า f ประมาณ f8 ขึ้นไป เป็นต้น นอกจากนี้ก็ควรพกผ้าเช็ดหน้าเลนส์ไปด้วย เพราะอาจจะมีฝ้าเกาะที่หน้าเลนส์ได้ง่าย
หาตำแหน่งที่สวยที่สุด แล้วตั้งกล้องรอน้องหมอก
6. อย่าเข้าใกล้หน้าผาเกินไป
การไปชมวิวแบบนี้ แน่นอนว่าทุกคนอยากชมในมุมที่หน้าฉากไม่มีอะไรมาบัง เพื่อจะได้ชมทะเลหมอกได้สวยงามที่สุด รวมถึงถ่ายภาพในมุมที่ดีที่สุด แต่ทั้งนี้ก็ไม่ควรเดินไปใกล้ขอบหน้าผาจนเกินไป อาจเสี่ยงอันตรายได้ ยังไงก็ต้องเว้นระยะห่างตามความเหมาะสมด้วยนะจ๊ะ
7. ทะเลหมอกสวยแซ่บ มีอีกเยอะ!
นอกจากภูกระดึงแล้ว ในบ้านเรายังมีจุดชมวิวทะเลหมอกสวยๆ แจ่มๆ อีกมากมายหลายแห่ง เช่น ภูชี้ฟ้า, ภูทับเบิก, เขาโมโกจู อุทยานแห่งชาติแม่วงก์, ภูทอก เชียงคาน, ภูชมดาว, ดอยม่อนเงาะ, เขาพะเนินทุ่ง และอีกมากมายหลายแห่ง เลือกไปเที่ยวได้ตามสะดวกใจ
ภูชี้ฟ้า ทะเลหมอกสวยฮิตติดอันดับของไทย
ถ้าใครไปเที่ยวตามยอดดอยยอดภูต่างๆ ช่วงปลายปีนี้ ก็สามารถนำเคล็ดลับเหล่านี้ไปปรับใช้ได้ แล้วก็เก็บภาพทะเลหมอกสวยๆ กลับมาฝากกันเยอะๆ ด้วยนะจ๊ะ
หางานตามสาขาอาชีพ
JOBBKK.COM © สงวนลิขสิทธิ์ All Right Reserved
jobbkk มีเพียงเว็บเดียวเท่านั้น ไม่มีเว็บเครือข่าย โปรดอย่าหลงเชื่อผู้แอบอ้าง และหากผู้ใดแอบอ้าง ไม่ว่าทาง Email, โทรศัพท์, SMS หรือทางใดก็ตาม จะถูกดำเนินคดีตามที่กฎหมายบัญญัติไว้สูงสุด 
